0
0
0
ยังไม่มีสินค้าในตะกร้า.

ร้อนแค่ไหนก็ไม่หวั่น! แจกแพลนเที่ยวสัตหีบ-พัทยา 3 วัน 2 คืน

calendar_month 10 มิ.ย. 2019 / stylus Admin Chillpainai / visibility 93,584 / ทริปตัวอย่าง

ร้อนแค่ไหนก็ไม่หวั่น! แจกแพลนเที่ยวสัตหีบ-พัทยา 3 วัน 2 คืน


เที่ยวสัตหีบ-พัทยา 3 วัน 2 คืน


ถึงแม้ว่าช่วงนี้จะมีกลิ่นฝนเข้ามาทักทายบ้างเป็นระยะพอให้เราได้สัมผัสความสดชื่นบ้างเป็นครั้งคราว แต่ไม่ว่าจะเข้าสู่ฤดูไหนก็ดูเหมือนว่าอุณหภูมิของประเทศไทยยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลงเลย!! และเมื่อความร้อนทวีคูณขึ้นแบบนี้ก็ถึงเวลาแล้วล่ะค่ะที่เราจะต้องปลดล็อคระดับความฮอตปรอทแตกของสภาพอากาศ ด้วยการชวนเพื่อนสนิทไปเที่ยวทะเลให้คลื่นซัดจนหนำใจสัก 3 วัน 2 คืน โดยทริปนี้เราปักหมุดกันไปที่สัตหีบ-พัทยา สองเมืองตากอากาศที่ฟ้าสวย ทะเลใส แถมยังมีที่พัก ที่กิน ที่เที่ยวให้เลือกเติมเต็มช่วงเวลาแห่งความสุขอย่างครบถ้วน ว่าแล้วก็ตามมาเที่ยวพร้อมๆ กันเลยดีกว่าค่าา Go Go! 


f0e34bbc675262bc8e661167fabdead6e22808df.png


แน่นอนว่าการจะไปเที่ยวทะเลทั้งทีเราก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อม แล้วก็ห้ามลืมที่จะจัดของใช้ชิ้นสำคัญใส่กระเป๋าไปด้วย ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า บิกินี่ตัวจิ๋ว แว่นกันแดดคู่ใจ หมวก กล้อง เครื่องสำอาง และหูฟังสำหรับฟังเพลงโปรดระหว่างเดินทาง ที่สำคัญควรพกผลิตภัณฑ์กันแดดดีๆ ติดไปด้วยนะคะ ซึ่งตัวช่วยที่เราใช้ปกป้องผิวทุกวันก็คือ Banana Boat Simply Protect Sport SPF50+ ที่นอกจากจะช่วยกันแดดให้แล้วยังมีส่วนผสมของมอยส์เจอร์ไรเซอร์บำรุงให้ผิวชุ่มชื้นไม่แห้งด้วยนะ ซึ่งเราก็พกไปทั้งแบบครีมและสเปรย์เลย ทริปนี้แดดจะร้อนแรงแค่ไหนเราก็ไม่กลัว


Banana Boat Simply Protect Sport SPF50+


a3b6383cbf7cdbebe54b87e6911a8229e072ee20.png


เมื่อกายและใจพร้อมเกิน 100% เราก็ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ตั้งแต่เช้า แวะทานข้าวและซื้อขนมไว้ทานเล่นบนรถก่อนจะมุ่งหน้าสู่พัทยา โดยจุดหมายแรกของวันนี้ก็คือ “สวนนงนุช” ที่หลายคนน่าจะคุ้นชื่อกันเป็นอย่างดีเพราะถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของพัทยาเลยก็ว่าได้ค่ะ ซึ่งที่นี่มีสวนพฤกษศาสตร์ระดับโลกกว่า 50 สวนสวยที่ถูกจัดตกแต่งด้วยต้นไม้นานาพรรณบนพื้นที่กว่า 1,700 ไร่เชียวนะ ขอบอกว่าอลังการงานสร้างมากๆ แถมยังมีมุมให้ถ่ายรูปเพียบ โดนใจเราสุดๆ ไปเลย


สวนนงนุช


นอกจากจะเพลิดเพลินไปกับการแชะรูปลงอินสตาแกรมแล้ว ที่สวนนงนุชยังมีอีกหนึ่งโซนใหม่ที่น่าสนใจนั่นก็คือ “Cactus Garden 2” พื้นที่ที่ทำให้เรารู้สึกตื่นตาตื่นใจไปกับสวนกระบองเพชรหรือไม้อวบน้ำกว่า 300 ชนิดจากทั่วทุกมุมโลก และบรรดาไดโนเสาร์หลากหลายสายพันธุ์ที่สมจริงมากเวอร์ เหมือนหลุดมาจากภาพยนตร์ที่เราเคยชมเลยล่ะ งานนี้ใครเป็นแฟนพันธุ์แท้ไดโนเสาร์ก็น่าจะสนุกกับการทายชื่อกันแน่นอน และถ้าเพื่อนๆ คนไหนอยากเดินเล่นชมวิวมุมสูงก็สามารถเดินขึ้นไปบนสกายวอล์คที่มีระยะทางยาวกว่า 3 กิโลเมตร ซึ่งเชื่อมโยงสวนต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน แถมยังมองเห็นทัศนียภาพในมุมสูงแบบ 360 องศาด้วยนะ


สวนนงนุช


เราเดินเล่นชมกระบองเพชรและถ่ายรูปคู่กับไดโนเสาร์จนเต็มอิ่มแล้ว เห็นว่าพื้นที่ใกล้ๆ กันเป็นโซน “สวนป่าหินธรรมชาติ” ที่นำหินตั้งและหินนอนกว่า 4,000 ก้อนมาจัดวางเรียงตามจินตนาการ ออกแบบด้วยคอนเซ็ปต์ที่ผสมผสานระหว่าง สวนป่าหิน สวนไดโนเสาร์ และสวนกระบองเพชร เข้ากันอย่างลงตัว เราเลยโฉบไปแชะภาพสักหน่อย จะบอกว่าโซนนี้ก็ถ่ายรูปออกมาสวยไม่แพ้โซนอื่นๆ เลยค่ะ


สวนนงนุช


อ๊ะๆ เกือบลืมบอกไปว่าภายในสวนนงนุชกว้างขวางและอากาศก็ค่อนข้างร้อน แนะนำให้เตรียมร่มและหมวกไปด้วยนะคะ ที่ขาดไม่ได้เลยคือผลิตภัณฑ์กันแดดเพราะรังสียูวีพร้อมทำร้ายผิวเราได้ทุกเมื่อ ดังนั้นฉีดสเปรย์กันแดดของ Banana Boat Simply Protect Sport SPF50+ ไว้ก่อนก็อุ่นใจดีค่ะ เมื่อปกป้องผิวแล้วก็ได้เวลาไปถ่ายรูปต่อกันเลย!


Banana Boat Simply Protect Sport SPF50+


มาต่อกันอีกหนึ่งโซนที่พลาดไม่ได้คือสโตนเฮนจ์ ที่เป็นการนำหินมาวางเรียงกันเป็นวงกลมซึ่งจำลองจากสถานที่สำคัญ 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่มีอายุมากกว่า 4,000 ปี จากประเทศอังกฤษเลยนะ ซึ่งพื้นที่รอบๆ ของโซนนี้จะถูกปลูกไม้ดอกไม้ประดับที่มีสีสันด้วย รับรองว่าถ่ายรูปออกมาสวยแน่นอน


สวนนงนุช


ถ่ายรูปและชมสวนสวยจากโซนนี้เสร็จถ้าเพื่อนๆ อยากไปโซนอื่นต่อ หรือจะกลับออกไปยังจุดจอดรถส่วนตัว ถ้าไม่อยากเดินก็สามารถใช้บริการรถนำเที่ยวไปยังจุดต่างๆ ได้นะคะ ราคาเริ่มต้นคนละ 50 บาทเท่านั้น 


สวนนงนุช


ที่ตั้ง : 34/1 ม.7 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ เมืองพัทยา

เปิดบริการ : ทุกวัน เวลา 08.00 - 18.00 น.

ค่าบริการ : ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็กสูง 90-130 ซม. เข้าฟรี (ราคานี้ไม่รวมค่าเข้าชมการแสดงต่างๆ)

โทรศัพท์ : 038-238-061

GPS : https://goo.gl/maps/yTDkfjoyWqhAV4oz5 


d50bb34abd6f4f2597a547a001d7cd85ac2db0f7.png


หลังจากแวะเที่ยวสวนนงนุชถ่ายรูปลงอินสตาแกรมรัวๆ จนเพื่อนเกือบ Unfollow แล้ว เราก็ยังไม่หยุด! ยังคงชวนเพื่อนขับรถไปแชะภาพ เอ้ย! เที่ยวต่อกันที่ “Swiss sheep farm พัทยา” สถานที่ท่องเที่ยวสไตล์ยูโรคันทรี่ที่อยู่ไม่ไกลกับไร่องุ่นซิลเวอร์เลค ซึ่งห้อมล้อมไปด้วยธรรมชาติและทิวเขาอันสวยงาม 


Swiss sheep farm พัทยา

Swiss sheep farm พัทยา


โดยที่นี่มีการจัดแต่งทุกอย่างอย่างลงตัวเหมาะแก่การถ่ายรูปมากกกก เราเลยไม่พลาดที่จะเตรียมเสื้อผ้าสวยๆ มาเปลี่ยนชุดให้เข้ากับบรรยากาศกับสถานที่ด้วย 


Swiss sheep farm พัทยา


จะบอกว่าที่ Swiss Sheep Farm พัทยา นอกจากถ่ายรูปมุมไหนก็สวยแล้ว ภายในฟาร์มยังมีสัตว์เลี้ยงน่ารักๆ เยอะมากเลยนะคะ ทั้ง ม้า ม้าแคระ อัลปาก้า แกะ กระต่าย หงส์ขาว หงส์ดำ และอีกมากมายให้เราเลือกชมและสัมผัส นอกจากนี้ที่ฟาร์มยังมีกิจกรรมต่างๆ ให้เราร่วมสนุกด้วยนะคะไม่ว่าจะเป็น ทดลองขี่ม้า นั่งรถลาก หรือให้อาหารแกะ ซึ่งแต่ละกิจกรรมก็เพลิดเพลินไปหมด บอกเลยว่าประทับใจมาก


Swiss sheep farm พัทยา


ที่ตั้ง : 19/20 ม.7 นาจอมเทียน สัตหีบ ชลบุรี

เปิดบริการ : ทุกวัน เวลา 09.00 - 18.00 น.

ค่าบริการ : บัตรเด็ก 50 บาท บัตรผู้ใหญ่ 90 บาท (เด็กสูงไม่เกิน 100 เซนติเมตร เข้าฟรี)

โทรศัพท์ : 038-119095

GPS : https://goo.gl/maps/q7C1pzaKKjZFMs4U8


57e5cdc887bbc658abb0d039b1646a0f2a46ef68.png


จาก Swiss Sheep Farm พัทยา เรากับเพื่อนก็ปักหมุดไปเช็คอินกันที่ “TuTu Beach” คาเฟ่และที่พักแบบรถบ้านเก๋ๆ แห่งใหม่ในพัทยา ขอบอกว่าที่นี่บรรยากาศดีมาก (ก.ไก่ล้านตัว) ให้ฟีลเหมือนหลุดเข้าไปในภาพยนตร์ที่ขับรถไปพักริมหาดสวยๆ ซึ่งที่พักแบบรถบ้านสามารถมองเห็นวิวทะเลทุกคันและมีบริการเพียงแค่ 3 คันเท่านั้น เรียกว่าไพรเวทสุดอะไรสุด ภายในมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันทั้ง แอร์ ตู้เย็น ไมโครเวฟ ห้องน้ำ แถมผู้เข้าพักยังสามารถซื้อของสดมาปิ้งย่างบนเตาบาร์บีคิวได้อีกด้วยนะ


TuTu Beach


เช็คอินเรียบร้อยแล้วเราก็ขอเปลี่ยนชุดมาถ่ายรูปสวยๆ สักหน่อย และแน่นอนว่าก่อนออกไปนั่งชิลริมหาดเราก็ไม่ลืมฉีดสเปรย์ Banana Boat Simply Protect Sport SPF50+ ซ้ำอีกครั้ง ซึ่งสเปรย์ตัวนี้มีเนื้อบางเบา เย็นสดชื่น ซึมซับสู่ผิวได้เร็ว แถมยังป้องกันรังสี UVA และ UVB กันน้ำเเละเหงื่อได้ดีไม่ต้องกลัวเป็นคราบเลยค่ะ


TuTu Beach


เมื่อผิวพร้อมเราก็ได้เวลาออกไปรับลมทะเลซึมซับบรรยากาศสวยๆ แล้วค่ะ อย่างที่บอกตั้งแต่แรกว่าที่นี่มีคาเฟ่บริการด้วย ดังนั้นเพื่อนๆ ที่ไม่ได้มาเข้าพักก็สามารถแวะมานั่งชิลที่ส่วนของคาเฟ่ริมหาดได้ ซึ่งที่นี่จะตกแต่งสไตล์ฮาวาเอี้ยน สีสันสดใส ทุกอย่างดูน่ารักกุ๊กกิ๊กไปหมด แถมยังมีมุมให้เลือกนั่งหลากหลายโซนทั้ง Indoor และ Outdoor แต่ที่ฮอตฮิตที่สุดก็คือโซน Outdoor ริมหาดที่ทางร้านจัดวางร่มผ้าใบคู่กับบีนแบคสีชมพูสุดคิ้วท์ ขอกระซิบบอกว่าชิลและใกล้ทะเลแบบฟินสุดๆ เลยล่ะ


TuTu Beach

TuTu Beach


ในส่วนของอาหารและเครื่องดื่มก็รสชาติดีไม่แพ้บรรยากาศเลยนะคะ ซึ่งที่นี่เน้นเสิร์ฟอาหารฟิวชั่นพร้อมกับเครื่องดื่มเก๋ๆ ที่คิดค้นใหม่อย่างสร้างสรรค์ เรากับเพื่อนตกลงกันว่าจะทานมื้อเย็นกันที่นี่ เลยสั่งสปาเก็ตตี้เบคอนพริกแห้งรสชาติจัดจ้านโดนใจ มาทานคู่กับ Spring Rolls Ham & Cheese ปอเปี๊ยะแฮมชีสที่กรอบกำลังดี ปิดท้ายกันด้วย Masubi ซูซิวางท็อปด้วยแฮมกระป๋อง อร่อยแบบเต็มๆ คำ ส่วนเครื่องดื่มเราสั่งเป็นตัวซิกเนเจอร์ของที่นี่คือ TuTu Pink Sunset รสชาติกลมกล่อม จิบแล้วให้ความรู้สึกสดชื่นคลายร้อนได้ดีเลยค่ะ ส่วนเพื่อนเราสั่งเมนู Mix Berry Soda สดชื่น ซาบซ่า อย่างลงตัวเลยล่ะ


TuTu Beach


ที่ตั้ง : ซอย นาจอมเทียน 10 เมืองพัทยา

เปิดบริการ : ทุกวัน เวลา 11.00 - 20.00 น.

โทรศัพท์ : 092-415-6242

GPS : https://goo.gl/maps/j8UnRJWA13LxVt1U8 


73431c9dfff8c475e3d9f9ca7009e23888e78dda.png


c29ef0526126139c876d2ce5f1d0eb1d25d6799e.png


เริ่มต้นวันที่ 2 เราทานอาหารเช้าจากที่พักแล้วเช็คเอาท์เพื่อเดินทางไปยังสัตหีบค่ะ เช้านี้เราจะไปเริงร่าท้าแดดกันที่ “หาดทรายแก้ว” ค่ะ บอกก่อนว่าที่พวกเราเลือกมาที่นี่เพราะเพื่อนเราเคยมาเที่ยวแล้วประทับใจตรงที่น้ำใส หาดสะอาด เงียบสงบ ผู้คนไม่ค่อยพลุกผล่าน เราเลยตกลงปลงใจว่าจะมาสลัดผ้าใส่บิกินี่กันที่นี่ ซึ่งหาดทรายแก้วตั้งอยู่ในพื้นที่โรงเรียนชุมพลทหารเรือ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ บริเวณอ่าวน้อย ที่นี่เลยอยู่ในการดูแลของทหารเรือนั่นเองค่ะ และก่อนที่จะเข้าไปเล่นน้ำก็ต้องแลกบัตรและซื้อบัตรค่าเข้าหาดด้วยนะคะ คนละ 50 บาท โดยด้านบนจะมีเจ้าหน้าที่ดูแล มีอุปกรณ์อย่างเต็นท์ เตียงผ้าใบ และมีที่พักแบบบังกะโลให้เช่า มีอุปกรณ์กีฬาทางน้ำบริการ เช่น เรือคายัค และอุปกรณ์ดำน้ำด้วยนะคะ ถ้ามาเที่ยววันธรรมดาสามารถขับรถเข้าไปจอดที่บริเวณหาดได้เลย แต่ถ้าเดินทางมาในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ จะต้องเสียค่าบริการใช้รถรับ-ส่ง เข้าไปภายในหาดนะคะ


ที่หาดทรายแก้วจะเป็นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์แบบยั่งยืนนะคะ โดยจะรักษาความสวยงามตามธรรมชาติไว้เป็นหลัก ทัศนียภาพรอบข้างก็รายล้อมไปด้วยภูเขาและพรรณไม้เขียวขจีให้ความรู้สึกสดชื่นดีจริงๆ ค่ะ  อีกทั้งตัวหาดยังมีความยาวประมาณ 1,700 เมตร แถมพื้นทรายยังเป็นสีขาวละเอียด เราว่าน้ำทะเลที่นี่ค่อนข้างใสสะอาดเลยล่ะ เหมาะแก่การมาท่องเที่ยว ดำน้ำ และพักผ่อนเป็นที่สุด


หาดทรายแก้ว


หลังจากยืดเส้นยืดสายสัมผัสลมทะเลจนหัวใจดี๊ด๊าพองโตแล้ว ระหว่างรอเพื่อนไปเปลี่ยนชุดเราก็ขอหยิบ Banana Boat Simply Protect Sport SPF50+ มาทาซ้ำอีกสักรอบ ซึ่งเจ้าครีมกันแดดตัวนี้ที่เห็นว่าเราใช้บ่อยๆ ก็เพราะเราชอบที่เนื้อครีมเขาบางเบาและซึมซาบลงผิวเร็วมากๆ นอกจากนี้จุดเด่นอีกหนึ่งอย่างที่เราถูกใจคือส่วนผสมที่ปราศจากสาร Oxybenzone & Parabens ที่ทำลายสิ่งแวดล้อมอย่างปะการังใต้ท้องทะเลด้วยล่ะเธอ เรียกว่าเป็นผลิตภัณฑ์กันแดดที่นอกจากจะช่วยปกป้องผิวแล้ว ยังช่วยรักษาธรรมชาติใต้ท้องทะเลไปในตัวนั่นเองจ้า


Banana Boat Simply Protect Sport SPF50+

Banana Boat Simply Protect Sport SPF50+


เมื่อผิวพร้อมแล้วก็ได้เวลาไปเปลี่ยนเป็นบิกินี่ตัวโปรดมาถ่ายรูปริมหาด สัมผัสน้ำทะเลใสๆ กันแล้วค่ะ เราเล่นน้ำกันไปสักพักก็เริ่มอยากทำกิจกรรมอื่น เพื่อนเลยบอกให้ไปเช่าเรือคายัคมาพายเล่น ตอนแรกก็ลังเลเพราะเพื่อนไม่ยอมเล่นด้วย แต่ตนย่อมเป็นที่พึ่งแห่งตนค่ะ เราเลยวิ่งไปเช่าเรือคายัคมาในราคา 100 บาท ขอบอกว่าสนุกมากกกกก ไม่ยากอย่างที่คิดเลยค่ะ 


หาดทรายแก้ว


ไม่เพียงแค่น้ำใส หาดทรายนุ่ม บรรยากาศดีเท่านั้นนะคะ ที่หาดทรายแก้วยังมีร้านอาหารและเครื่องดื่มที่เราสามารถใช้เวลาที่นี่ได้ทั้งวันตั้งแต่เช้ายันเย็นเลยล่ะ


ที่ตั้ง : พื้นที่โรงเรียนชุมพลทหารเรือ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ บริเวณอ่าวน้อย ตำบลบางเสร่ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี

เปิดบริการ : ทุกวัน เวลา 06.00 - 18.00 น.

โทรศัพท์ : 038-436-187 ต่อ 2070, 2607

GPS : https://goo.gl/maps/vfqW6ncTv2uzvdjU6 


af7daf99db9e78df8d8ac4801d05f1818a2931f1.png


หลังจากเล่นน้ำจนตัวเปื่อย เรากับเพื่อนก็อาบน้ำเพื่อเตรียมตัวไปเช็คอินเข้าพักในเมืองสัตหีบที่จองไว้ “Summer Stay Sattahip” เพื่อนเราคุยว่าที่นี่เก๋มาก ซึ่งพอไปถึงก็เก๋ตามที่นางบอกจริงๆ แหละนะ ซึ่งที่นี่เป็นอาคารพาณิชย์ 2 คูหา ที่ถูกรีโนเวทใหม่ให้ด้านบนเป็นที่พักแบบบูติคโฮเต็ล สไตล์ทรอปิคอลวินเทจ และด้านล่างเปิดเป็นบีชคาเฟ่เก๋ๆ ใจกลางเมืองสัตหีบ 


สำหรับห้องพักของที่นี่จะมีให้เลือกด้วยกัน 4 แบบ 9 ห้อง คือแบบห้องดอร์มสำหรับ 8 คน และห้องเดี่ยวซึ่งมีขนาดแตกต่างกันไป ห้องที่เราพักอยู่ชั้น 2 คือห้อง Monstera ขนาด 28 ตร.ม. ภายในห้องตกแต่งแบบเรียบง่าย ดูอบอุ่น น่าเอนกายพักผ่อน มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันเลยล่ะ


Summer Stay Sattahip


นอกจากจะตกแต่งห้องสวยงามแล้ว อีกหนึ่งไฮไลท์ที่ทำให้ผู้เข้าพักหลงรักที่นี่ก็คือ อาหารเช้าที่เป็นเมนูเจ้าดังของตลาดสัตหีบ เช่น ข้าวเหนียวหมูปิ้ง ข้าวเหนียวหมูฝอย สปาเก็ตตี้ ปาท่องโก๋ ขนมใส่ไส้ ที่ถึงแม้หน้าตาจะดูธรรมดาแต่รสชาติอร่อยแบบยกนิ้วให้เลยค่ะ


Summer Stay Sattahip


ที่ตั้ง : 333/98-99 ถ.เทศบาล 9 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

เปิดบริการ : ทุกวัน เวลา 09.00 - 20.00 น.

โทรศัพท์ : 08-408-0074

GPS : https://goo.gl/maps/hApHWUbWRNC9pAKX7 


87f34fed81308a7bd8a1abb248eeef3b07edfebc.png


เช็คอินเก็บของเข้าที่พักเรียบร้อยแล้วเราก็ชวนเพื่อนออกไปรับลมทะเลถ่ายรูปเล่นที่ “หาดดงตาล” ที่มีความยาวกว่า 400 เมตร ตั้งอยู่ในพื้นที่ของกองเรือยุทธการ ฐานทัพเรือสัตหีบ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่พักเท่าไหร่ ที่นี่ถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกหาดที่สวยงามและเงียบสงบ อีกทั้งยังมีกิจกรรมการแล่นเรือใบและมีการสอนเล่นเรือใบด้วยนะคะ ถ้าเพื่อนๆ มานั่งเล่นริมหาดก็จะเห็นเรือใบแล่นอยู่ไม่ไกล 


หาดดงตาล

หาดดงตาล


สำหรับไฮไลท์ของหาดดงตาลก็คือทิวต้นตาลที่ปลูกไว้ขนาบริมหาดจนกลายเป็นสัญลักษณ์สำคัญของที่นี่เลยก็ว่าได้ นอกจากจะให้ร่มเงาแล้วยังถ่ายรูปออกมาเก๋กู้ดอีกด้วยนะ เราว่าถ้าเพื่อนๆ ชอบทะเลและอยากถ่ายรูปมุมเก๋ๆ ต้องไม่พลาดชายหาดนี้เลยล่ะ 


หาดดงตาล


ที่ตั้ง : ในพื้นที่ของกองเรือยุทธการ ฐานทัพเรือสัตหีบ ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

เปิดบริการ : ทุกวัน เวลา 06.00 - 18.00 น.

GPS : https://goo.gl/maps/nXit5rzPwRMthhMm7 


278dc1f07577ffecc33cd078b03fc55da31247a2.png


ได้รูปสวยลงโซเชียลแล้วเรากับเพื่อนก็ไปทานมื้อเย็นกันที่ร้าน “เพื่อนทะเล” ที่เราเลือกมาทานกันร้านนี้เพราะว่าคนท้องถิ่นแนะนำมาค่ะ เขาว่าร้านนี้บรรยากาศดี อาหารสด ใหม่อร่อย และราคาย่อมเยา ซึ่งเรากับเพื่อนก็จัดหนักสั่งกันมาเต็มโต๊ะเลย ทั้งหมดนี้ราคาไม่ถึงพัน รสชาติดี กินกันอิ่มมากๆ แทบจะกลิ้งกลับที่พักกันเลยค่ะ 


เพื่อนทะเล


ที่ตั้ง : ถนนเลียบชายทะเล ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

เปิดบริการ : ทุกวัน เวลา 10.00 - 23.00 น.

โทรศัพท์ : 099-6235693

GPS : https://goo.gl/maps/81S4jH6pCHK1iJaNA 


ab6facdef564a09e88067f41c4b7d49c7a2a424c.png


9c550bd80d6414c9aaaa533cfd1b9ca866fd29e1.png


เช้าวันสุดท้ายเพื่อนเราปลุกมาอาบน้ำแต่งตัวและทานอาหารเช้าจากที่พักเพื่อขึ้นไปชมวิวมุมสูงที่ “เขาแหลมปู่เจ้า” เขานี้ตั้งอยู่ในเขตนาวิกโยธินทหารเรือสัตหีบค่ะ เพื่อนๆ ต้องแลกบัตรเข้ามาก่อนนะ จะบอกว่าที่นี่เป็นที่ตั้งของศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ภายในศาลจะบรรจุรูปหล่อของพระองค์ท่านขนาดเท่าพระองค์จริง รวมถึงเป็นที่เก็บอัฐิของพระองค์ท่านด้วย เรากับเพื่อนเลยอยากขึ้นมาสักการะท่านเพื่อเป็นสิริมงคล ซึ่งระหว่างทางที่ขับรถขึ้นมาจะเจอกับน้องๆ ฝูงลิงด้วยนะคะ ถ้าใครอยากเอาอาหารมาให้น้องก็มีจุดให้อาหารอยู่ค่ะ 


เขาแหลมปู่เจ้า


พอขึ้นมาถึงด้านบนจะมีซุ้มขายธูป เทียน ดอกไม้ขายด้วย พอสักการะเสร็จแนะนำให้จุดประทัดด้วยนะเพราะคนสัตหีบเชื่อกันว่าหากมาขอพรกับกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์แล้ว ถ้าอยากประสบความสำเร็จดังที่ขอควรจุดประทัดถวายท่านด้วย งานนี้เรากับเพื่อนเลยจุดประทัดกันรัวๆ ขอให้ลูกสมหวังด้วยเถิด เพี้ยง!


เขาแหลมปู่เจ้า

เขาแหลมปู่เจ้า


จุดประทัดกันไปแล้ว ก่อนกลับลงไปยังที่พักเราเลยเดินเล่นชมวิวด้านบนกันอีกสักนิด เพราะว่ากันว่าที่นี่วิวงามมากๆ แต่สิบปากว่าคงไม่เท่าตาเห็น แนะนำให้ขึ้นมาสักครั้งค่ะ เพราะวิวสวยจริงๆ แถมจุดชมวิวเขาแหลมปู่เจ้านั้นเราสามารถมองเห็นวิวอ่าวสัตหีบ อ่าวเตยงาม เกาะพระ เกาะเตาหม้อ รวมถึงอ่าวไทยได้อย่างชัดเจนกว้างไกลสุดสายตาเลย ที่สำคัญคือมองเห็นส่วนเว้าส่วนโค้งของชายหาดด้วยนะคะ


เขาแหลมปู่เจ้า

เขาแหลมปู่เจ้า


ที่ตั้ง : อยู่ในเขตนาวิกโยธินทหารเรือสัตหีบ ตำบลสัตหีบ อำเภอสัตหีบ ชลบุรี 

เปิดบริการ : ทุกวัน เวลา 06.00 - 18.00 น.

โทรศัพท์ : 099-362-4299

GPS : https://goo.gl/maps/Bz5GnLgVYgPu4qCH9 


3be75acfa9152cb73bdc8e08e7f1aa6abba266f4.png


หลังจากกลับลงมาจากเขาแหลมปู่เจ้า เราก็ตรงดิ่งกลับมายังที่พักเพื่อเก็บของและเช็คเอาท์ แต่ก่อนจะกลับเรากับเพื่อนตั้งใจว่าจะนั่งชิลที่คาเฟ่ด้านล่างกันสักพัก เพราะที่ Summer Stay Sattahip เป็นคาเฟ่บรรยากาศสุดชิลที่ถ่ายรูปสวยมาก ซึ่งการตกแต่งของที่นี่นั้นจะเป็นสไตล์ทรอปิคอลวินเทจ เน้นสีสันสดใสแบบบีชคาเฟ่เก๋ๆ คุมโทนด้วยสีเขียวอ่อนและสีชมพูอ่อนเป็นหลัก ภายในร้านมีมุมให้เลือกนั่งชิลหลายมุม จัดวางโต๊ะไม้คู่กับเก้าอี้หวายให้กลิ่นอายแบบทะเลตะวันตก ซึ่งก็ดูเข้ากันดีกับไม้ประดับสีเขียวขจีที่จัดวางไว้ตามมุมต่างๆ มองแล้วเพลินตามากเลยค่ะ


Summer Stay Sattahip

Summer Stay Sattahip


ถ่ายรูปกันจนครบเกือบทุกมุมแล้ว เราเลยชวนเพื่อนสั่งขนมและเครื่องดื่มมาทาน ซึ่งเราสั่งเมนูซิกเนเจอร์อย่าง Lychee Tea เป็นแก้วที่มีความหอมของชาผสมกับความสดชื่นของลิ้นจี่แบบกำลังดีเลยค่ะ ส่วนเพื่อนเราสั่ง Passion Fruit Sparkling น้ำเสาวรสโซดาเปรี้ยวหวานซาบซ่าชื่นใจ กับ Choco mint  รสชาติเข้มข้นถึงใจยิ่งทานคู่กับชีสเค้กโอรีโอเนื้อหนึบหนับ บอกเลยว่าความฟินอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม


Summer Stay Sattahip


ที่ตั้ง : 333/98-99 ถ.เทศบาล 9 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

เปิดบริการ : ทุกวัน เวลา 09.00 - 20.00 น.

โทรศัพท์ : 08-408-0074

GPS : https://goo.gl/maps/hApHWUbWRNC9pAKX7 


7425768237ed130ade6d2da849490dd66acc29ed.png


เติมพลังกันที่คาเฟ่แล้ว เรากับเพื่อนก็ขับรถกลับไปยังพัทยาแวะเที่ยว “เขาชีจรรย์” สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอีกหนึ่งแห่งของจังหวัดชลบุรี เพราะที่นี่มีพระพุทธรูปแกะสลักบนหน้าผาหินด้วยแสงเลเซอร์ในลักษณะพระพุทธฉายที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยถูกสร้างขึ้นมาจากสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร ที่ทรงเสียดายความสวยงามของเขาลูกนี้ ประกอบกับเห็นว่าภูเขาถูกระเบิดทำลายอยู่เรื่อยๆ  ท่านจึงได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตจัดสร้างเป็นพระพุทธรูปประจำรัชกาลที่ 9 เป็นพระพุทธรูปแบบประทับนั่งปางมารวิชัยเลียนแบบพระพุทธนวราชบพิตรศิลปะสุโขทัยผสมล้านนา ซึ่งมีความสูงถึง 109 เมตร ถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวโรกาสรัชกาลที่ 9 ทรงครองศิริราชสมบัติครบ 50 ปี นั่นเองค่ะ


เขาชีจรรย์


นอกจากมีพระพุทธรูปแกะสลักลายเส้นแล้ว พื้นที่รอบๆ ของเขาชีจรรย์ยังสวยงามและร่มรื่นมากเลยนะคะ เพราะรายล้อมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ มีสนามหญ้าเปิดโล่งสามารถมองเห็นพระพุทธรูปได้อย่างชัดเจน เราว่าที่นี่เหมาะสำหรับการมาเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจและถ่ายรูปเป็นที่ระลึกจริงๆ ค่ะ


ที่ตั้ง : ตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ใกล้วัดญาณสังวราราม

เปิดบริการ : ทุกวัน เวลา 06.00 - 18.00 น.

โทรศัพท์ : 063-842-7667

GPS : https://goo.gl/maps/8g9yo4QmFqwhgkrK8 


5173866c4f06b4c30eb7a5ca44d0dab5f1d44d91.png


จากเขาชีจรรย์เรากับเพื่อนก็รีบสตาร์ทรถขับไปเที่ยวต่อยัง “สวนน้ำรามายณะ” สวนน้ำที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งที่นี่มีเครื่องเล่นสไลเดอร์ 21 เครื่องด้วยกัน ตั้งอยู่ที่ท่ามกลางหุบเขาและทิวทัศน์ที่สวยงามของเขาชีจรรย์ อีกทั้งยังอยู่ติดกับไร่องุ่นซิลเวอร์เลค เป็นพิกัดที่ง่ายต่อการไปถึงมากเลยล่ะ พอเรามาถึงที่หมายสุดท้ายหลังจากซื้อตั๋วเรียบร้อยแล้วเจ้าหน้าที่ก็จะให้ริชแบรนด์ติดข้อมือมาคนละอัน โดยเราต้องใช้สแกน QR Code ผ่านประตูทางเข้าและใช้เปิดล็อกเกอร์เพื่อเก็บข้าวของ รวมไปจนถึงรับรูปและคลิปวิดิโอตามเครื่องเล่นต่างๆ ที่จะส่งตรงเข้าอีเมลและเราก็สามารถแชร์ลงโซเชียลต่อได้เลยทันที 


สวนน้ำรามายณะ


สแกน QR Code ผ่านประตูมาแล้ว เรากับเพื่อนก็ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมตัวไปเล่นน้ำกันทันที และแน่นอนว่าอากาศร้อนๆ แดดแรงๆ แบบนี้ทางเราก็ไม่ลืมที่จะฉีดสเปรย์ Banana Boat Simply Protect Sport SPF50+ เพื่อปกป้องผิวก่อนจะลงเล่นน้ำเพราะตัวนี้เป็นสูตรกันน้ำและทนต่อเหงื่อ ปราศจากน้ำมันและน้ำหอม แถมยังช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB ได้อย่างมีประสิทธิภาพ บอกเลยว่าของเขาดีจริงๆ สเปรย์เนื้อบางเบา เย็นสดชื่น ซึมซับสู่ผิวได้เร็ว ซึ่งเราขอแนะนำเพื่อนๆ ว่าควรใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดก่อนออกกลางแจ้งสัก 15-30 นาทีนะคะ ที่สำคัญควรทาซ้ำๆ ทุก 2 ชั่วโมงและทุกครั้งหลังขึ้นมาจากเล่นน้ำด้วยนะจ๊ะ


Banana Boat Simply Protect Sport SPF50+


เอาล่ะ เมื่อผิวพร้อมแล้วก็ได้เวลาท้าแดดจัดหนักจัดเต็มกับเครื่องเล่นสุดมันส์กันแล้วค่า ซึ่งเราขอเริ่มจากอควาโคสเตอร์ เครื่องเล่นที่ถูกออกแบบมาให้เล่นสำหรับห่วงยางแบบคู่ แต่เราสามารถเล่นคนเดียวได้นะคะถ้าน้ำหนักเกิน 45 กิโลกรัม โดยห่วงย่วงจะลื่นไหลไปตามท่อที่มีความยาวถึง 240 เมตร ความสนุกของเครื่องเล่นนี้จะอยู่ที่แรงดันน้ำผลักให้ห่วงยางลอยขึ้นและตกลง หมุนซ้ายขวาไปตามแรงเหวี่ยง ขอบอกว่าตื่นเต้นและสนุกมากๆ 


สวนน้ำรามายณะ

สวนน้ำรามายณะ


ความสนุกยังไม่หมดเท่านี้ค่ะ เพราะเราจะไปเล่นเครื่องเล่นสุดเสียวอย่างเซอร์เพนไทน์กันต่อ บอกเลยว่าเจ้าเครื่องนี้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีสำหรับคนรักการการผจญภัยแบบเรา เพราะเป็นสไลเดอร์แบบเปิดครึ่งหนึ่งและปิดอีกครึ่งหนึ่ง ตอนเล่นเราจะรู้สึกถึงความเร็วที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนเร็วถึงขีดสุดก่อนหล่นลงสู่พื้นด้านล่างจนน้ำกระจาย เปียกสะใจปิดทริปสุดๆ


สวนน้ำรามายณะ


ที่ตั้ง : 9 หมู่ 7 ถ.บานเย็น ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี 

เปิดบริการ : ทุกวัน เวลา 10.00 - 18.00 น.

โทรศัพท์ : 033-005-929

GPS : https://goo.gl/maps/eRPiSNuqwTRaSDRp9 


สุดท้ายนี้ขอบอกเลยว่าทริปสัตหีบ - พัทยา 3 วัน 2 คืนนี้ ประทับใจเรากับเพื่อนสุดๆ นอกจากจะได้พักผ่อนแบบชิลๆ ไม่ต้องกังวลใจอะไรแล้ว ยังได้เล่นน้ำ ชมวิวสวย เช็คอินที่พักสุดเก๋ ได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ รวมถึงเล่นสวนน้ำแบบสุดมันส์ ถือเป็นทริปที่ดีต่อใจเรามากๆ เพราะพอกลับมาทำงานไม่มีใครทักว่าคล้ำขึ้นเลย กรีดร้องสิจ๊ะ แบบนี้ต้องขอยกความดีความชอบให้ตัวช่วยสำคัญอย่าง Banana Boat Simply Protect Sport SPF50+ ที่ปกป้องผิวของเราตลอดทริป ของเขาดีขนาดนี้...ว่าแล้วก็เปิดปฏิทินแพลนทริปเที่ยวสู้แดดต่อไปกันเลยดีกว่า! 


เขียนโดย
Admin Chillpainai
Admin Chillpainai